รอบหนังเฮียทอม ครูซ ร้องขอท้ามอดม้วยเกาะกุมเครื่องบินระบายหนังใหม่ Mission: Impossible 5

เฮียทอม ครูซ ขอท้าตายเกาะเครื่องบินถ่ายหนังใหม่ Mission: Impossible 5

เพราะว่าหลังจากที่พระเอกมาดเข้ม ได้รับบทเป็นอีธาน ฮันท์ ที่เป็นยอดสายลับที่มีวีรกรรมเสี่ยงมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้านับยอดตามในหนังแล้วก็รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ทอม ครูซ กำลังจักกลับมารับบทเป็นยอดสายลับกับจอเงินภาคต่อที่หลายต่อหลายคนรอคอยในหนังเรื่อง Mission: Impossible 5

ซึ่งวีรกรรมของเขาในภาคที่แล้วคือ Mission: Impossible – Ghost Protocol กับการห้อยต่องแต่งแขวนตัวอยู่นอกเบิร์จคาลิฟาของดูไบ ที่จัดได้ว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกขณะนี้ถือเป็นภารกิจท้าตายสุดระทึกที่เรียกได้ว่าเสี่ยงมากๆ

แต่ว่าเพราะว่าพระเอกอย่างทอม ครูซแล้วจักหวาดเสียวแค่ไหนเขาก็ไม่เคยหวั่นเพราะว่าส่วนมากพระเอกหน้าหล่อคนนี้ก็มักจะเล่นม่านบังตาเสี่ยงตายด้วยตัวเองอยู่เสมอๆ

พร้อมด้วยหลังจากที่หนังสือพิมพ์ในประเทศอังกฤษด้วยกันบรรดา IG คนในทีมงานได้มีการจับภาพของ ทอม ครูซ ที่กำลังแสดงม่านบังตา ปีนขึ้นไปเกาะกับประตูเครื่องบินแอร์บัส เอ 400 เอ็ม แอตลาส เป็นเครื่องบินลำเลียงพลของทหารขณะที่บินขึ้นไป โดยเครื่องบินบินด้วยความเร็ว 250 ไมล์/ชั่วโมง ที่ความสูง 5 พันฟุต


เพราะว่าที่แน่นอนว่าผนังเสี่ยงตายแบบนี้ทีมงานก็ต้องเซฟตี้เรื่องความปลอดภัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งตัวทอมเองก็ถูกผูกรั้งไว้กับเชือกที่ดูแลเพราะว่าเหล่างานสตั้นท์แมนอย่าง เวด อีสต์วู๊ด ซึ่งแน่นอนว่าต้องดูแลเรื่องแรงเหวี่ยงพร้อมด้วยแรงต้านอากาศด้วย ส่วนในช่วงขั้นตอนการตัดต่อภาพยนตร์เชือกดังกล่าวก็คงถูกทำซีจีลบออกในภายหลังนั่นเอง

เพราะรอบหนังเรื่อง Mission: Impossible 5 ได้มีกำหนดออกฉายธันวาคม 2015 หนังมี

• เจเรมี เรนเนอร์
• ไซมอน เพ็ก
• วิงก์ แรห์ม
• อเล็ค บอลด์วิน 
• รีเบคกา เฟอร์กูกัน 

ได้มาร่วมแสดง เพราะว่าที่ตัวอย่างหนังใหม่ได้ผู้กำกับหนังอย่าง คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี่

ซึ่งเพื่อหนังแฟรนชายส์เรื่อง Mission:Impossible นั้นเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับโลกมากเลยทีเดียวภาคล่าสุดอย่างตอน
Mission:Impossible - Ghost Protocol ทำรายได้จากทั่วโลกไปถึง 694 ล้านเหรียญสหรัฐ
Mission:Impossible III ทำรายได้จากทั่วโลกไปถึง 397 ล้านเหรียญสหรัฐ
Mission:Impossible II   นั้นทำรายรับไปทั้งสิ้นในตลาดโลก 546 ล้านเหรียญสหรัฐ
Mission:Impossible       ภาคแรกนั้น 457 ล้านเหรียญสหรัฐ

ก็จะเห็นได้ว่าทุกภาคนั้นล้วนทำกำไรให้กับพาราเมาต์สตูดิโอเป็นอย่างมาก